วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิธีการดูแลยอร์คเชีย เทอเรีย

วิธีการดูแลยอร์คเชีย เทอเรีย

  




ยอร์คเชียเทอร์เรีย หรือที่เรียกย่อๆว่า ยอร์ค หรือ ยอร์คกี้ นั้นจัดว่าเป็นหนึ่งในสิบสุนัขพันธุ์ยอดนิยมของประเทศสหรัฐอเมริกา (akc 2007)ด้วยเสน่ห์ของสุนัขธุ์เล็ก ขนสลวยสวยเก๋ มีนิสัยร่าเริงคึกคักและแข็งแรง
หลายคนเปรียบว่า เลี้ยงยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ก็คล้ายๆเลี้ยงเด็ก เพราะมีลักษณะหลายประการที่ยอร์คเชียเทอร์เรียมีความคล้ายคลึงกับเด็กๆที่ ชอบเล่นซุก
ซนที่อาจส่งเสียงดังรบกวนโสตปรัสาทของเพื่อนบ้านได้แต่สิ่งหนึ่งที่ยอร์คเชียร์เทอร์เ
รียมีก็คือความเฉลียวฉลาดอย่างหาตัวจับยากในบรรดาเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มเทอร์เรียด้วย
กัน
ดังนั้นบรรดาแฟนพันธุ์แท้ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ทั้งหลายจึงควร รู้ดีก่อนเกี่ยวกับคุณลักษณะพิเศษของหมาตัวเล็กนี้ เพื่อจะได้นำไป เลี้ยงดูยอร์คกี้ให้สุขภาพดีมีสุขตลอดไปดัง 12 วิธีดูแลสุขภาพยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ต่อไปนี้
1. ยอร์คกี้ต้องอาบน้ำเสริมสวยเป็นประจำ
หากท่านคิดจะเลี้ยงยอร์คกี้ ก็จะต้องเตรียมเวลาเผื่อไว้อาบน้ำ-เสริมสวยหรือที่เรียกว่า กรูมมิ่ง อย่าง สม่ำ
เสมออย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพราะยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขพันธุ์ขนยาวสลวยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

2. แปรงขนทุกวัน ป้องกันสังกะตัง
เราต้องแปรงขนพันธุ์ยอร์คเชียเทอร์เรียทุกวัน มิฉะนั้นขนจะพันกันเป็นก้อนสังกะตังได้ และยังช่วยให้
ยอร์ คกี้ของเรามีขนที่สะอาดอีกด้วย ยกเว้นบริเวณข้างๆลำตัวของยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ตัวผู้ที่จะเลอะฉี่ได้จึงจะต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดทุกวัน

3. เช็ดขี้ตาวันละหน
ยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขที่มีขี้ตาเยอะ ซึ่งเราอาจจะสังเกตคราบขี้ตาที่ไปสะสมอยู่มุมตา ดังนั้น
เราจะต้องหมั่นคอยดูแลรักษาความสะอาดรอบดวงตาด้วยสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดครบขี้ตาออกไปด้
วย

4. ตัดขนรอบก้นให้เรียบร้อย
ขน รอบก้นยอร์คเชียร์เทอร์เรีย อาจพันกันเป็นก้อน เนื่องจากเลอะคราบอุจจาระดังนั้นเราจึงควรเล็มขนรอบทวารหนักของยอร์คเชียร์ ให้สั้น เพื่อความสะอาดและอนามัยรอบก้น

5. ลูกยอร์คต้องตัดขนปลายหู
เนื่อง จากยอร์คเชียร์เทอร์เรีย อายุน้อยเราจะต้องตัดขนปลายหูส่วนบน(ลงมาหนึ่งในสามของใบหู) ให้สั้นเพื่อช่วยให้หูตั้งสวยงาม โดยเราควรตัดขนปลายหูนี้จนถึงอายุ 6 เดือน

6.หมั่นดูแลอนามัยช่องหู
เนื่อง จากยอร์คเชียรืเทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีขนหูเยอะ ทำให้ขี้หูสะสมมากผิดปรกติ ดังนั้นเราจึงควรถอนขนหูออกบ้าง และหมั่นเช็ดหูให้สะอาด เพื่อป้องกันโรคหูส่วนนอกอักเสบและโรคไรหู

7.ทำความสะอาดฟันทุกวัน
เช่น เดียวกับสุนัขพันธุ์ toy ส่วนใหญ่ที่จะมีปัญหาหินปูนและเหงือกอักเสบ ดังนั้นเราจึงจะต้องแปลงฟันให้ยอร์คเชียเทอร์เรียวันละครั้ง เพื่อป้องกันฟันผุและสร้างกินปากที่สดชื่นให้ยอร์คกี้ของเรา

8.ระวังอากาศหนาว
เนื่อง จากยอร์คเชียเทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นยอร์คเชียร์เทอร์เรีย จึงไม่ทนทานต่ออากาศเย็น ดังนั้น หากต้องเลี้ยงยอร์คเชียร์ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่น ห้องแอร์ หรือฤดูหนาว เราจึงควรหาเสื้อหนาวเก๋ๆใส่ให้น้องยอร์คกี้ด้วย

9.เลี้ยงด้วยอาหารสุนัขคุณภาพสูง
เนื่อง จากยอร์คเชียเทอร์เรียเป็นสุนัขตัวเล็ก ซึ่งกินอาหารเพียงปริมาณน้อย ดังนั้นเราจึงควรลงทุนเลี้ยงยอร์คกี้ด้วยอาหารสุนัขคุณภาพสูง เช่น เกรดพรีเมี่ยม หรือซุปเปอร์พรีเมี่ยม

10.เฝ้าระวังโรคประจำพันธุ์
ยอร์คเชียร์เทอร์เรียนั้นมีโรคประจำพันธุ์อยู่สี่โรคคือ
10.1 โรคลูกสะบ้าเคลื่อน
10.2 โรคเส้นเลือดมาเลี้ยงตับผิดปรกติ
10.3 โรคจอประสาทตาเสื่อม
10.4 โรคหลอดลมตีบ

11.นิสัยไม่เป็นมิตรต่อสัตว์อื่นในบางโอกาส
เนื่อง จากยอร์คเชียร์เทอร์เรียนั้นมีประวัติดั้งเดิมถูกผลิตมาเพื่อเป็นหมานักล่า ดังนั้น สัญชาติญาณนักล่าจึงอาจหลงเหลืออยู่บ้าง จึงทำให้บางทียอร์คเชียเทอร์เรียอาจไม่เป็นมิตรกับสัตว์ชนิดอื่นรวมทั้ง เพื่อนสุนัขด้วยกันด้วย ดังนั้นเราจะต้องฝึกนิสัยยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ของเรมให้น่ารักและเป็นกัลยาณมิตรด้วยนะครับ

12.ยอร์คเชียเป็นหมาอายุยืน
หาก ไม่มีปัจจัยโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงมารบกวนแล้ว ยอร์เชียเทอร์เรียจะสามารถอยู่กับเราได้ถึง15ปีเลยทีเดียวซึ่งจะเป็นพวกที่ อายุยืนพันหนึ่ง
เพราะนั้นหมายถึง หากเรารับยอร์คกี้มาเลี้ยงแล้ว เพื่อนสี่ขาตัวนี้จะอยู่กับเราอย่างยาวนานนับสิบกว่าปีเลยทีเดียว

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

ไอศกรีมหม้อไฟยศเส

กว่าจะเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงขนาดทุกวันนี้ เจ้าของร้าน คุณโช เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้หุ้นกับเพื่อนขายไอศกรีมธรรมดา จนตอนหลังแยกมาทำคนเดียว เลยอยากหาอะไรที่เป็นเอกลักษณ์แปลกใหม่ ด้วยความที่เคยทำงานเอเจนซี่โฆษณามาก่อน จึงชอบคิดอะไรที่แตกต่าง พยายามหาอะไรที่ตรงข้ามกับความเย็นของไอศกรีมมาลองใส่ดู สุดท้ายเลยมาลงตัวที่หม้อไฟ แล้วเพิ่มน้ำแข็งแห้ง Food Grade ที่รับรองความปลอดภัย ใส่ลงไปตรงกลาง ให้มีควันขึ้นมาดูสมจริง ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจจนติดใจใครหลายคนเลยค่ะ
เพียงแค่แพ็กเกจภายนอกอย่างเดียวคงดังไม่ได้ ต้องควบคู่กับความอร่อยของรสชาติไอศกรีมที่เป็นจุดเด่นของร้านนี้ไปด้วยค่ะ กับหลากหลายรสที่หาทานไม่ได้ที่ไหนที่มีกว่า 20-30 รส ที่หลายคนยกนิ้วให้เป็น รสโคตรนม ซึ่งเป็นรสแรกที่พยายามสร้างสรรค์ความต่าง โดยใส่นมเพิ่มเข้าไปเป็นดับเบิ้ล จนได้ความเข้มข้นหวานมันของนมแบบเต็ม ๆ
ต่อมาเป็นบรรดารสที่ผสมแอลกอฮอลล์ก็ฮอตไม่เบา อย่าง รสเบียร์ ที่ไม่หนักจนเกินไป หรือ รสกระทิงแดงวอดก้า ที่เกิดปิ๊งไอเดียจากตอนไปสำรวจตลาดที่เวียดนาม ซึ่งคนที่นั่นนิยมดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาก เลยลองทำ ปรากฏคนไทยก็ชอบไม่แพ้กันค่ะ หรือเป็นรสที่คุ้นเคย อย่าง รสสตอว์เบอร์รี่ ช็อกโกแลตบราวนี่ ยาคูลท์ปีโป้ หรือ นูเทลล่า ก็ทำออกมาได้ลงตัวเช่นกัน ราคาเพียงลูกละ 25, 28 และ 30 บาทเท่านั้นค่ะ
 ไอศกรีมหม้อไฟเปิดต้อนรับอยู่ถึง 3 สาขาค่ะ ทั้งที่ ซอยยศเส ร้านแรกต้นตำรับ เปิดเวลา 19.00-23.00 น. สาขา Terminal 21 จะมีหม้อไฟไซส์เล็กด้วย สามารถมาทานได้ทั้งวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. อยู่บริเวณ Food Court และสาขาล่าสุดที่ ลาดพร้าว 71 เปิดเวลา 10.00-21.00 น. จะเลือกไปทานที่ไหนก็ได้อิ่มหนำแบบเย็น ๆ สนุก ๆ 

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

มาริโมะคืออะไร ใครๆก็ฮิต



มาริโมะ สาหร่ายสีเขียว เทรนด์ฮิตใหม่ที่คนไทยแห่เลี้ยง มาดูวิธีเลี้ยง มาริโมะ การดูแลมาริโมะ สาหร่ายสีเขียว
            สาหร่ายก้อนกลม ๆ แลดูน่ารักกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่ช่วงนี้คนไทยกำลังฮิตเลี้ยงกันอยู่ ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าสาหร่ายที่มีชื่อน่ารัก ๆ คิกขุ ว่า "มาริโมะ" อันเป็นของฝากชื่อดังจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น รู้ไหมว่า คนญี่ปุ่นเขาถือว่าเจ้ามาริโมะนี้เป็นเครื่องรางนำโชคซะด้วย

            มาริโมะ เป็นสาหร่ายน้ำจืดสีเขียวที่มีลักษณะเป็นก้อนกลม ๆ อาศัยอยู่ในทะเลสาบอะคัง ที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้มาริโมะเป็นก้อนกลม ๆ นั้นมาจากการหมุนตัวไหลเวียนของน้ำตามธรรมชาติในทะเลสาบ โดยมาริโมะเป็นพืชที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการสังเคราะห์แสงนั่นเอง  
 
            สาหร่ายมาริโมะนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นของล้ำค่าของเกาะฮอกไกโด เพราะเอกลักษณ์ที่แปลกและมีความน่ารักเฉพาะตัว อีกทั้งยังหาได้ไม่กี่ที่ในโลก จึงทำให้คนเกิดความสนใจอยากได้มาครอบครอง สำหรับชื่อ “มาริโมะ” นั้น ได้มาจากนักพฤกษศาสตร์ ทะซึฮิโกะ คาวาคามิ เป็นคนตั้งไว้ และยังมีชื่อน่ารัก ๆ ในภาษาอังกฤษ ว่า “moss ball”  

มาริโมะ





สาหร่ายมาริโมะ เลี้ยงยากไหมนะ ?

            สำหรับวิธีการเลี้ยงเจ้าสาหร่าย "มาริโมะ" เนี่ยไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณมีตู้หรือขวดโหลที่ปลอดสารเคมีและใส่น้ำเปล่าสะอาด ๆ ก็สามารถเลี้ยงได้แล้ว แต่ต้องตรวจเช็กอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส วางไว้ให้อยู่บริเวณริมหน้าต่าง และคอยเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้งก็พอ

          แล้วราคาแพงหรือเปล่า ?

            สำหรับราคาของสาหร่ายมาริโมะที่ขายอยู่ในเมืองไทย ก็จะขายกันตามขนาดไซส์ โดยมีขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตร ไปจนถึง 6 เซนติเมตร โดยราคาจะอยู่ที่ตั้งแต่ 120 บาทขึ้นไป  

            เคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับสาหร่ายมาริโมะไหม ?
 

            คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า "มาริโมะ" จะช่วยให้คนสมหวังในเรื่องของความรักและมีความสุข ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงถือเป็นเครื่องรางนำโชค และมีหลายคนนิยมนำมาริโมะมามอบให้เป็นของฝากกันจ้า


            และด้วยความน่ารักของเจ้าสาหร่ายมาริโมะ ทำให้คนไทยพากันซื้อหาสาหร่ายมาริโมะตามอินเทอร์เน็ตมาเลี้ยงกันเพียบเลย แต่ล่าสุด ทางรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นได้มีคำสั่งห้ามนำมาริโมะขึ้นมาจากใต้น้ำในทะเลสาบอะคังแล้ว เนื่องจากเกรงว่า มาริโมะจะสูญพันธุ์ จึงเก็บไว้เพื่อการศึกษาเท่านั้น งานนี้ ก็เลยมีพ่อค้าหัวใสแอบเอาตะไคร่น้ำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วมาหลอกขายแทน 

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

มะเขือเทศ!!

ประโยชน์ของมะเขือเทศ


สารไลโคฟีน (Lycopene) เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid)
ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยในการป้องกันการเสื่อสภาพของเซลล์ในร่างกาย สารไลโคฟีนนี้มีประสิทธิภาพเหนือว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์อื่น ๆ ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มดลูกและปอด ยังพบอีกว่า สารไลโคฟีนนั้น สามารถช่วยลดโอกาสความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ มากถึง 21% อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมในตำรับยา ที่ใช้ป้องกันอันตรายอันเกิดจากการผลิตอนุมูลอิสระที่ผิดปกติ สารไลโคฟีนนี้จะพบมากในมะเขือเทศแดงสด แตงโม และฝรั่งขี้นกที่มีเนื้อสีชมพูอมแดง เป็นต้น
การรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ลูกจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เป็นต้นว่า ช่วยต้านโรคความดันโลหิตสูง บำรุงดวงตา และสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว เยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก และบำรุงผิวพรรณ และหากใช้มะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ หรือน้ำคั้นจากผลสดทาหน้า ช่วยทำให้ผิวหน้าตึง มีน้ำมีนวล

การรับประทานมะเขือเทศดิบ จะมีผลร้ายแรงเพราะจะมีสารที่ออกฤทธิ์รุนแรง จัดเป็นสารพิษ Steroidal alkaloid ในมะเขือเทศ คือ a-tomatine ซึ่งได้จากใบและส่วนเหนือดิน ในผลสีเขียวจะมี alkaloid 0.03% ในผลสุกไม่พบ alkaloid คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาของ Steroidal alkaloid คือ ทำปฏิกิริยากับสเตียรอลที่เซลล์ผิวเป็นผลให้เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้ผิวหนังและเนื้อบุผิวระคายเคืองอย่างแรง มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รา และใช้เป็นยาฆ่าแมลงมีคุณสมบัติยับยั้งเอมไซม์โคลีนเอสเตอเรส กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและต่อมาจะทำให้เป็นอัมพาต หากรับประทานในขนาดที่จะทำให้เกิดพิษจะระคายเคืองทางเดินอาหารอย่างแรง

มะเขือเทศเป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณ
วิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน
นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตูอื่นๆ อีกหลายชนิด
มะเขือเทศมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง เพราะมะเขือเทศมีวิตามิน P (citrin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด

มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดันโลหิตสูง มะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกัน และรักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย

ช่วยบำรุงผิวลดริ้วรอย ผิวพรรณไม่แห้งกร้าน ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังสามารถต้านมะเร็งได้ด้วย
มะเขือเทศยังมีสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นจึงใช้เป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับปากที่เกิดจากเชื้อราได้

สีเปลี่ยนไป!! >> รู้กันบ้างรึเปล่าว่าการว่ายน้ำในสระนั้น สามารถทำให้สีผมของเราที่ไปทำสี หรือไฮไลท์มานั้นเปลี่ยนไปได้ ซี่งสาเหตุมาจากคลอรีนที่อยู่สระจะทำปฏิกิริยากับสีของผม ดังนั้นหลังจากว่ายน้ำเสร็จ นำซอสมะเขือเทศสักประมาณหนึ่งฝ่ามือมาละเลงให้ทั่วศีรษะ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออก สีผมที่เปลี่ยนไปก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม 
ขัดแล้วก็ขัด!! >> ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของเราจะหมองอีกต่อไป เพราะในซอสมะเขือเทศนั้นมีกรดผลไม้ที่ช่วยในเรื่องการขัดเงา ซึ่งวิธีการก็ง่ายมากเพียงแค่นำซอสมะเขือเทศมาขัดถู หลังจากนั้นก็นำไปล้างด้วยน้ำเปล่า เพียงเท่านี้เครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของเราก็จะกลับมาสวยเด้งเหมือนเดิม
เจ็บจี๊ด!! >> ไม่ว่าหกล้ม ถูกมีดบาด แผลจะใหญ่-เล็กขนาดไหน ซอสมะเขือเทศก็สามารถช่วยได้ เพียงนำเจ้าซอสสีแดงเข้มที่แช่ตู้เย็นไว้มาป้ายบนบาดแผล เพียงเท่านี้ความรู้สึกเจ็บก็จะบรรเทาลงไปได้เยอะเลย
  อี๊ กลิ่นเหม็น!! >> ครัวนอกจากจะเป็นพื้นที่ทำอาหารแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมกลิ่นต่างๆ ไว้ มากมายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอาหาร กลิ่นเศษอาหาร กลิ่นคาวปลา ฯลฯ ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะหายไปเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ เปิดฝาซอสมะเขือเทศทิ้วไว้ 1 คืนเท่านั้น ตื่นเช้ามารับรองว่าจะไม่มีกลิ่นใดๆ มากวนใจแน่นอน